
นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี พิธีกร นักแสดง และอดีตนางสาวไทย พบกันในรายการแฉ ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 คืนวานนี้ (10 มิ.ย.)
ระหว่างที่กำลังพักโฆษณาอยู่นั้น บุ๋ม ปนัดดา กำลังอธิบายว่า การคุกคามทางเพศยังเป็นความผิดที่มีโทษเบา (ลหุโทษ) และกำลังผลักดันให้เป็นคดีอาญาอย่างจริงจัง แต่ยังไม่สำเร็จ และถามนางสาวปารีณาว่า ถ้าคิดว่าตนเข้าใจผิด ทำไมถึงไม่โทรถามตน และนำมาโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียให้เป็นเรื่องใหญ่โตทำไม
แต่ ส.ส. จ.ราชบุรี กล่าวตอบไปว่า แล้วเหตุใด บุ๋ม ปนัดดา จึงไม่ยอมรับความจริงว่าสิ่งที่โพสต์เรื่องการคุกคามทางเพศไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ท้าเจอกันในศาล ปมใส่ร้าย “หมีเหม็น”
ต่อมาเมื่อกลับเข้าสู่รายการ นางสาวปารีณาอ้างว่า บุ๋ม ปนัดดา สร้างข่าวให้ร้ายตน อย่างเช่นที่ บุ๋ม ปนัดดา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กล่าวหาว่าตนโพสต์ต่อว่า บุ๋ม ปนัดดา “หมีเหม็น” จึงอยากให้เรื่องนี้มีการนำไปพิสูจน์ในชั้นศาลว่าตนโพสต์เช่นนั้นจริงหรือไม่ หรือเป็นโพสต์ของเฟซบุ๊กปลอม
“แล้วไอ้เรื่องหมีเหม็นเนี่ย เดี๋ยวดูว่าใครจะถูกดำเนินคดีกันแน่” นางสาวปารีณา ระบุ
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงที่ผ่านมาของเดือนนี้ บุ๋ม ปนัดดาเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า นางสาวปารีณากล่าวถึงตนด้วยถ้อยคำรุนแรง อย่างเช่น มากสามี และ หมีเหม็น
“ตอนเนี้ยโพสต์เขาหนักขนาดไหน แล้วชื่อบุ๋มชัดเจน มีถึงขนาดบุ๋ม ปนัดดา แล้วแฮชแท็กข้างล่างว่า #หมีเหม็นมาก ทุกคน แรงนะ ส.ส. เขียนกันอย่างงี้เหรอ” บุ๋ม ปนัดดา กล่าว
อย่างไรก็ตาม นางสาวปารีณาใช้โอกาสในรายการนี้ ตอบกลับว่า ตนไม่เคยโพสต์ว่า “หมีเหม็น” อย่างที่ บุ๋ม ปนัดดา กล่าวหา และน่าจะเป็นเฟซบุ๊กปลอมมากกว่า

ย้อนชนวนสงคราม (อดีต) นางงาม
เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจาก บุ๋ม ปนัดดา โพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า “การคุกคามทางเพศกำลังจะเป็นกฎหมายจริงจัง จะไม่เป็นแค่การลงบันทึกประจำวันอีกต่อไป”
อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนสำนักหนึ่งกลับระบุลงในข่าวว่า บุ๋ม ปนัดดา กำลังผลักดันให้การข่มขืนมีโทษเหมือนคดีอาญาได้ระดับหนึ่งแล้ว จุดนี้เองที่คาดว่าเป็นต้นเหตุให้นางสาวปารีณาเข้าใจบุ๋ม ปนัดดา ผิด
หลังจากนั้น ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อ ส.ส. จ.ราชบุรีรายนี้ โพสต์ว่าสิ่งที่อดีตนางงามระบุนั้น ไม่ตรงต่อความเป็นจริง เพราะการข่มขืนเป็นคดีอาญามานานแล้ว
“เป็นการพูด #มั่ว อย่างชัดเจน เพราะคดีข่มขืน เป็นคดีอาญามานานแล้ว”
หลังจากนั้น นางสาวปารีณาก็โพสต์ถึงการคุกคามทางเพศว่าสามารถดำเนินคดีอาญาได้ มีโทษถึงติดคุก หรือทำจำทั้งปรับ ขึ้นอยู่กับศาล แต่หลายกรณีอาจรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะการพิสูจน์ว่าถูกคุกคามเป็นเรื่องยาก
“การคุกคามทางเพศ สามารถดำเนินคดีอาญา มีโทษถึงติดคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศาล และศาลมักจะเมตตาผู้หญิง แต่ศาลจำเป็นต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย แต่ความยากคือการพิสูจน์ว่าคุณถูกคุกคามจริงหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องลงบันทึกประจำวัน หากมีคนตามคุณ ดักรอคุณ ควรเลือกไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดี”
เหตุนี้นำมาสู่ความขัดแย้งผ่านสื่อของทั้ง 2 ฝ่ายในเวลาต่อมาอีกหลายประเด็น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่อง “หมีเหม็น”
ลั่นบุ๋ม “ย้อนแย้ง” แต่งตัวกระตุ้นกาม
นางสาวปารีณา ให้สัมภาษณ์ในรายการแฉว่า บุ๋ม ปนัดดา มีพฤติกรรมขัดแย้งกันเอง เพราะพยายามอ้างตัวว่าต่อสู้เพื่อเหยื่อที่ถูกคุกคามทางเพศและข่มขืน แต่ตัวเองกลับถ่ายรูปโชว์เรือนร่างลงสื่อต่างๆ ซึ่งนางสาวปารีณามองว่าเป็นการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของผู้เห็นรูปหลายคน
แต่ บุ๋ม ปนัดดา ตอบกลับประเด็นนี้ว่า การแต่งตัววาบหวิวเป็นสิทธิส่วนบุคคล และการแต่งตัวไม่ว่าจะโป๊แค่ไหน ก็ไม่ใช่เหตุผลที่คนอื่นจะมีสิทธิ์มาข่มขืนได้ และคนที่เกิดอารมณ์ก็ควรรู้จักห้ามใจตัวเองหรือจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง ไม่ใช่ละเมิดคนอื่น
ทั้งยังย้ำด้วยว่านางสาวปารีณาไม่ควรอ้างว่าการแต่งตัววาบหวิวเป็นสาเหตุของการถูกข่มขืน เพราะเป็นคำพูดที่ไม่สมเหตุสมผล ซึ่ง บุ๋ม ปนัดดา ใช้คำว่า “ตรรกะป่วย”
นอกจากนี้ บุ๋ม ปนัดดา ยังบอกว่า รูปตนเองที่นางสาวปารีณานำมาโพสต์ เป็นรูปถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ และเมื่อตนไปว่ายน้ำ ก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ ไม่ถูกต้องตรงไหน
มดดำ-คชาภา ตันเจริญ หนึ่งในพิธีกรรายการแฉ ถาม ส.ส. จ.ราชบุรี รายนี้ว่า ในเมื่อมองว่ารูปของบุ๋ม ปนัดดา วาบหวิวและไม่เหมาะสม ทำไมนางสาวปารีณาจึงนำมาโพสต์ต่อ โดย ส.ส. หญิงคนดังรายนี้ตอบว่า เห็นคนอื่นโพสต์ ก็เลยโพสต์ตาม
ถกประเด็นโทษข่มขืน
อีกประเด็นหนึ่งที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้แลกเปลี่ยนกันในรายการนี้ คือ นางสาวปารีณา ถามว่า ทำไมบุ๋ม ปนัดดา จึงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การข่มขืนยังไม่เป็นคดีอาญา ซึ่งอีกฝ่ายตอบกลับว่า ตนไม่เคยให้สัมภาษณ์เช่นนั้น เพราะทราบดีว่าการข่มขืนมีโทษ 4-20 ปี
บุ๋ม ปนัดดา จึงมองว่า ถ้านางสาวปารีณายังไม่เข้าใจจริงๆ ว่าตนพูดหรือให้สัมภาษณ์อะไรไปบ้าง ก็ขอไม่พูดต่อดีกว่า เพราะพูดไปก็ไม่จบ
อย่างไรก็ตาม การพบกันครั้งนี้ของนางสาวปารีณา และ บุ๋ม ปนัดดา ได้รับความสนใจจากคนในสังคมอย่างมาก ทำให้มีคนเข้ามาชมรายการแฉสูงสุดมากกว่า 18,000 คนในเวลาเดียวกัน ในเว็บไซต์ยูทูบ ขณะที่ตัวเลขในเฟซบุ๊กก็มากกว่า 250,000 คนพร้อมกัน
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก
เว็บ : sanook.com